• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้ที่มีความชำนาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม ครบวงจร !!

Started by www.SeoNo1.co.th, Sep 15, 2025, 05:42 PM

Previous topic - Next topic

www.SeoNo1.co.th

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องมือส่งกำลัง อะไหล่เครื่องจักร ที่ได้รับความเชื่อใจจากผู้ใช้งานอุตสาหกรรมการผลิตเยอะแยะ พร้อมบริการให้คำแนะนำรวมทั้งจัดส่งทั่วประเทศ



เป็นมอเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากมายในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใช้กับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ การใช้งานฐานรากเป็นแปลงกำลังไฟฟ้าให้เปลี่ยนเป็นพลังงานกล ส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่เปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นขดลวดในสเตเตอร์ เมื่อได้รับกำลังไฟฟ้าก็จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น และจะไปทำให้เกิดการเหนี่ยวนำของไฟฟ้าขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ หรือ เรียกว่าตัวหมุน ซึ่งเป็นส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ให้พลังงานมายากลนั่นเอง ก็เลยทำให้มีการเรียก มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ว่ามอเตอร์รั้งนำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกเป็น

1. มอเตอร์กระแสไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับแบบอินดักชั่น หรือ เหนี่ยวนำ– จะมีความเร็วพร้อมรอบคงเดิม ด้วยเหตุว่าขึ้นกับความถี่ของแหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้า องค์ประกอบไม่ค่อยสลับซับซ้อน ราคาไม่แพง ทำนุบำรุงง่ายเพราะไม่มีคอมมิวเตเตอร์กับแปรงถ่านเหมือนมอเตอร์กระแสตรง เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องควบคุมความเร็วอินเวอร์เตอร์ก็จะสามารถคุมความเร็วได้ตั้งแต่0 ถึง ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์
ด้านในประกอบไปด้วยโรเตอร์, ขดลวดสนามแม่เหล็ก, โครงมอเตอร์, ขั้วต่อสาย, ฝาครอบหัว, ฝาครอบด้านหลัง สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆอย่างเช่น อินดิกชั่นมอเตอร์แบบทรงกระรอกกับอินดิกชั่นมอเตอร์แบบขดลวด การใช้งานขึ้นกับความเหมาะสมของเครื่องจักร

2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ แบบซิงโครนัส– จะเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่ขนาดกะแสไฟฟ้าตั้งแต่ 150 KW ไปจนกระทั่ง 15 MW ระดับความเร็วตั้งแต่ 150 – 1,800 RPM มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ

- สเตเตอร์ (Stator) จะเป็นราวกับแบบอินดักชั่น มีร่องพันขดลวด 3 ชุด เฟสละ 1 ชุด เพียงพอจ่ายกระแสสลับ 3 เฟสให้สเตเตอร์จะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนขึ้นมา
- โรเตอร์ (Rotor) ลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่น ขดลวดพันด้านข้างขั้วแม่เหล็กที่ยื่นออกมาโดยจะพันยื่นต่อกับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไฟฟ้ากระแสตรงด้านนอกไม่ก็สร้างขั้วแม่เหล็กตรงโรเจอร์ เมื่อมีการจ่ายไฟฟ้ามายังสเตเตอร์จะกำเนิดเป็นสนามแม่เหล็กหมุนความเร็วเท่ากับความเร็วของสนามไฟฟ้าตรงสเตเตอร์นั่นเอง

กระแสไฟฟ้า 3 เฟสเป็นอย่างไร?

กระแสไฟฟ้า 1 เฟสเป็นกระแสไฟฟ้าที่ใช้กับ หลอดไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้าน จะเป็นไฟกระแสสลับ ระบบ 1 เฟส 2 สาย ชี้แจงง่ายๆเป็นสายไฟฟ้าเข้า 2 เส้น จะมีสายที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" ปริมาณ 1 เส้น และก็สายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีกระแสไฟไหล เรียกกว่า "สายนิวตรอน" ปริมาณ 1 เส้น ทดสอบได้จากปลั๊กไฟฟ้าตามบ้านแบบ 2 ช่อง ลองนำไขควงวัดไฟวัดที่รูทิ่ม จะมันช่องหนึ่งที่มีกระแสไฟฟ้า และก็อีกช่องไม่มีไฟฟ้า วิธีการทำอย่างงี้เพื่อให้ไฟฟ้านั้นไหลครบวงจร ส่วนปลั๊กไฟฟ้าที่มี 3 ช่อง จะมีช่องสายกราวด์ เพิ่มเข้ามาอีก 1 ช่อง เพื่อไฟฟ้าไหลลงดิน ถ้ากำเนิดกระแสไฟฟ้ารั่วซึ่งระบบกระแสไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย จะหรูหราแรงกดดันกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานจะอยู่ที่ 230-250 V มีความถี่ 50 Hz

กระแสไฟฟ้า 3 เฟสหมายถึงระบบไฟฟ้าระบบ 3 เฟส 4 สาย ชี้แจงง่ายๆเป็น สายไฟฟ้าเข้า 4 เส้น จะมีสายที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ จำนวน 3 เส้น แล้วก็สายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล เรียกว่า "สายนิวตรอน" จำนวน 1 เส้น ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งาน ถ้าหากวัดแรงกดดันระหว่างสายไลน์กับสายไลน์ แรงกดดันจะอยู่ที่ 380-400 V แต่หากวัดระหว่างสายไลน์กับสายนิวตรอน แรงกดดันจะอยู่ที่ 230-250 V ความถี่ 50 Hz ซึ่งระบบ 3 เฟส 4 สายนั้น จะใช้กับเครื่องจักรต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเครื่องจักรมีขนาดใหญ่ ก็เลยอยากแรงกดดันไฟฟ้าสูง กระแสไฟฟ้าระบบนี้ไม่อาจจะนำมาใช้กับระบบแสงสว่าง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าข้างในบ้านได้โดยตรง

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าระบบกระแสไฟฟ้า 3 เฟส ไม่สามารถใช้กับวัสดุอุปกรณ์ด้านในภายได้ แล้วนำมาเสนอแนะเพื่ออะไร ข้อสงสัยนี้อธิบายได้ง่ายๆ กล่าวคือ ระบบกระแสไฟฟ้า 3 เฟสที่จะประยุกต์ใช้ในบ้านนั้น ไม่ได้ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องเดียวทั้งหมดทั้งปวงโดยตรง แต่ว่าเราจะแบ่งไฟฟ้า 3 เฟส ออกเป็น กระแสไฟฟ้า 1 เฟส ปริมาณ 3 ชุด แล้วกระจายไปตามจุดต่างๆที่อุปกรณ์ไฟฟ้าติดตั้ง การทำในลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นการเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ทำให้อดออมค่าใช้กระแสไฟฟ้าได้

ขอขอบคุณบทความ https://fms.co.th/เกร็ดความรู้เบื้องต้นเ/